วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ประวัติฉัน
ฉันชื่อนางสาวสุภาพร คำปิตะ
ชื่อเล่นว่าน้ำฝน สาเหตุที่ชื่อน้ำฝนเพราะว่าตอนที่แม่คลอดฉันฝนตกหนักมากและตกติดต่อกันอีกหลายวันจึงตั้งชื่อว่าน้ำฝนต่อมาน้ำฝนยาวไปเพื่อนๆเลยเรียกว่าฝนเฉยๆอันที่จริงแล้วเรียกชื่อไหนก็ได้ ส่วนชื่อจริงพระคุณเจ้าเกี้ยน เสมอพิทักษ์ ตั้งให้
ท่านบอกว่าถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายให้ตั้งชื่อว่า
สามารถ
แต่โชคดีที่ฉันเกิดมาเป็นผู้หญิงเลยได้ชื่อว่า สุภาพร ฉันคลอดที่โรงพยาบาลเล็กๆแถวบ้าน
ฉันเป็นลูกสาวคนโตแสดงว่าพ่อแม่ต้องรักฉันมากๆแน่เลยเพราะเขาตั้งใจมีลูกฉันจึงมั่นใจว่าฉันต้องเกิดจากความรักของพ่อแม่อย่างแท้จริง จากนั้นพ่อกับแม่ก็เลี้ยงดูฉันมาอย่างดีจนเติบโตและเป็นฉันในปัจจุบันนี้
เรื่องดีๆในชีวิตของฉันและเป็นเรื่องที่ฉันมีความภาคภูมิใจมากที่จะนำเสนอคือ
เนื่องจากฉันเป็นลูกคนโตฉันจึงมีหน้าที่เลี้ยงน้องตั้งแต่เด็ก ฉันมีน้องสองคน
ฉันก็เลี้ยงทั้งสองคนเลย มันเป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งที่ฉันมีโอกาสแบ่งเบาในหน้าที่การงานของพ่อแม่ได้ตั้งแต่ยังเด็ก
จุดเด่นของฉันคือการที่ฉันเป็นคนตรงๆเป็นคนเปิดเผยมีอะไรก็พูดไปตรงๆจุดด้อยคือฉันเป็นคนอ่อนไหวง่ายมีอะไรนิดหน่อยก็น้อยใจเสียใจรับอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจไม่ค่อยได้
อาจเป็นเพราะตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยห่างจากพ่อแม่ห่างจากบ้านเลย
พอได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็เลยดูเหมือนจะลำบากนิดนึงมันเป็นจุดด้อยของฉันจริงๆ
ฉันทำอะไรบ้างในช่วงปิดเทอม
ฉันทำอะไรบ้างนะในช่วงปิดเทอม
ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาในเดือนตุลาคม
2555
หลังจากฝึกปฏิบัติเสร็จแล้ว
ฉันก็ยังไม่ได้กลับบ้าน
เพราะต้องช่วยงานชุมนุมครูคำสอนระดับชาติก่อน เริ่มตั้งแต่การเตรียมงานประมาณ 5 วัน ต่อมาก็เป็นวันงาน วันงานมีสามวัน ต้องช่วยขายของ ตักอาหาร
ดูแลความเรียบร้อยต่างๆ คนเยอะมากเลยค่ะ ฉันได้รำอวยพรเปิดงานด้วยนะ
ชื่อว่ารำสี่ภาค
ฉันได้กลับบ้านอีกทีก็วันที่
19
พอถึงบ้านฉันต้องทำความสะอาดบ้านเตรียมสวดแม่พระที่บ้าน สวดแม่พระเสร็จเช้ามาก็ได้มีเวลาไปพบปะกับเพื่อนๆบ้างนิดหน่อย
หลังจากนั้นก็ไปค่ายต่อเป็นค่ายคำสอนสัญจร
ต้องไปสอนคำสอนเด็ก ตั้งแต่วันที่ 24-31 ตุลาคม เป็นโครงการของศูนย์คำสอน มีเด็กประมาณ 70 คนตลอดระยะเวลา 8 วันที่อยู่ค่ายเป็นระยะเวลาที่มีความสุขมาก
เด็กๆก็น่ารัก อาหารในค่ายก็อร่อยเพราะเป็นอาหารพื้นบ้านที่ฉันชอบกินอร่อยทั้งนั้น
แต่ก็เหนื่อยนิดหน่อยที่ต้องดูแลเด็ก จัดกิจกรรมนันทนาการ เล่นเกมต่างๆ พอจบค่ายกลับบ้านมาวันที่ 1 พ . ย พอดีว่าที่บ้านมีมีงานเสกสุสานวันเสาร์ที่ 3 เลยขออยู่บ้านต่ออีกซัก 2-3 วัน
เสกสุสานก่อนแล้วค่อยกลับมาเรียน
เลยไม่ได้มาเรียน 2
วัน จร้า พูดถึงงานเสกสุสาน
ที่บ้านคนเยอะมากใครทำงานที่ไหนก็กลับมาบ้านกันทั้งนั้น
เป็นเหมือนวันรวมญาติวันหนึ่งก็ว่าได้
แล้วยังมีการเปิดถนนคนเดินมีของขายมากมายชื่อถนนว่า ถนนข้าวใหม่ ปลามัน
มีการตกแต่งน่ารักมาก
บรรยากาศก็ดีอากาศหนาวนิดๆ
อบอุ่นด้วยความรักความคิดถึงของญาติพี่น้องแต่ละคน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)