วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประวัติฉัน


                                                       ประวัติส่วนตัวที่น่ารักของฉัน
          ฉันชื่อนางสาวสุภาพร  คำปิตะ ชื่อเล่นว่าน้ำฝน สาเหตุที่ชื่อน้ำฝนเพราะว่าตอนที่แม่คลอดฉันฝนตกหนักมากและตกติดต่อกันอีกหลายวันจึงตั้งชื่อว่าน้ำฝนต่อมาน้ำฝนยาวไปเพื่อนๆเลยเรียกว่าฝนเฉยๆอันที่จริงแล้วเรียกชื่อไหนก็ได้  ส่วนชื่อจริงพระคุณเจ้าเกี้ยน  เสมอพิทักษ์ ตั้งให้ ท่านบอกว่าถ้าฉันเกิดมาเป็นผู้ชายให้ตั้งชื่อว่า  สามารถ  แต่โชคดีที่ฉันเกิดมาเป็นผู้หญิงเลยได้ชื่อว่า สุภาพร ฉันคลอดที่โรงพยาบาลเล็กๆแถวบ้าน ฉันเป็นลูกสาวคนโตแสดงว่าพ่อแม่ต้องรักฉันมากๆแน่เลยเพราะเขาตั้งใจมีลูกฉันจึงมั่นใจว่าฉันต้องเกิดจากความรักของพ่อแม่อย่างแท้จริง  จากนั้นพ่อกับแม่ก็เลี้ยงดูฉันมาอย่างดีจนเติบโตและเป็นฉันในปัจจุบันนี้
            เรื่องดีๆในชีวิตของฉันและเป็นเรื่องที่ฉันมีความภาคภูมิใจมากที่จะนำเสนอคือ เนื่องจากฉันเป็นลูกคนโตฉันจึงมีหน้าที่เลี้ยงน้องตั้งแต่เด็ก ฉันมีน้องสองคน ฉันก็เลี้ยงทั้งสองคนเลย มันเป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งที่ฉันมีโอกาสแบ่งเบาในหน้าที่การงานของพ่อแม่ได้ตั้งแต่ยังเด็ก
จุดเด่นของฉันคือการที่ฉันเป็นคนตรงๆเป็นคนเปิดเผยมีอะไรก็พูดไปตรงๆจุดด้อยคือฉันเป็นคนอ่อนไหวง่ายมีอะไรนิดหน่อยก็น้อยใจเสียใจรับอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจไม่ค่อยได้ อาจเป็นเพราะตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยห่างจากพ่อแม่ห่างจากบ้านเลย พอได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกก็เลยดูเหมือนจะลำบากนิดนึงมันเป็นจุดด้อยของฉันจริงๆ

ฉันทำอะไรบ้างในช่วงปิดเทอม


                                                ฉันทำอะไรบ้างนะในช่วงปิดเทอม
            ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาในเดือนตุลาคม 2555 หลังจากฝึกปฏิบัติเสร็จแล้ว  ฉันก็ยังไม่ได้กลับบ้าน  เพราะต้องช่วยงานชุมนุมครูคำสอนระดับชาติก่อน  เริ่มตั้งแต่การเตรียมงานประมาณ 5  วัน   ต่อมาก็เป็นวันงาน  วันงานมีสามวัน ต้องช่วยขายของ  ตักอาหาร  ดูแลความเรียบร้อยต่างๆ คนเยอะมากเลยค่ะ ฉันได้รำอวยพรเปิดงานด้วยนะ ชื่อว่ารำสี่ภาค 
            ฉันได้กลับบ้านอีกทีก็วันที่ 19  พอถึงบ้านฉันต้องทำความสะอาดบ้านเตรียมสวดแม่พระที่บ้าน  สวดแม่พระเสร็จเช้ามาก็ได้มีเวลาไปพบปะกับเพื่อนๆบ้างนิดหน่อย
             หลังจากนั้นก็ไปค่ายต่อเป็นค่ายคำสอนสัญจร ต้องไปสอนคำสอนเด็ก  ตั้งแต่วันที่ 24-31  ตุลาคม  เป็นโครงการของศูนย์คำสอน มีเด็กประมาณ  70  คนตลอดระยะเวลา 8  วันที่อยู่ค่ายเป็นระยะเวลาที่มีความสุขมาก เด็กๆก็น่ารัก อาหารในค่ายก็อร่อยเพราะเป็นอาหารพื้นบ้านที่ฉันชอบกินอร่อยทั้งนั้น แต่ก็เหนื่อยนิดหน่อยที่ต้องดูแลเด็ก จัดกิจกรรมนันทนาการ เล่นเกมต่างๆ  พอจบค่ายกลับบ้านมาวันที่ 1  .       พอดีว่าที่บ้านมีมีงานเสกสุสานวันเสาร์ที่  3  เลยขออยู่บ้านต่ออีกซัก 2-3 วัน  เสกสุสานก่อนแล้วค่อยกลับมาเรียน  เลยไม่ได้มาเรียน 2  วัน จร้า  พูดถึงงานเสกสุสาน  ที่บ้านคนเยอะมากใครทำงานที่ไหนก็กลับมาบ้านกันทั้งนั้น เป็นเหมือนวันรวมญาติวันหนึ่งก็ว่าได้  แล้วยังมีการเปิดถนนคนเดินมีของขายมากมายชื่อถนนว่า ถนนข้าวใหม่ ปลามัน มีการตกแต่งน่ารักมาก  บรรยากาศก็ดีอากาศหนาวนิดๆ อบอุ่นด้วยความรักความคิดถึงของญาติพี่น้องแต่ละคน
คำอธิบาย: C:\Users\Fon\Desktop\New folder (2)\DSCF6622.JPG
คำอธิบาย: C:\Users\Fon\Desktop\New folder (2)\DSCF6620.JPG
คำอธิบาย: C:\Users\Fon\Desktop\IMG_1106.JPG
คำอธิบาย: C:\Users\Fon\Desktop\IMG_0709.JPG
คำอธิบาย: C:\Users\Fon\Desktop\IMG_0485.JPG
คำอธิบาย: D:\My Piture\รูปค่าย\รูปค่าย\IMG_0225.jpg

วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

น้ำตาล



                                 น้ำตาลก็ให้ความหวาน  เป็นสารที่ทุกคนต้องการและขาดไม่ได้

ของหวาน


                    บัวลอยเป็นขนมชนิดหนึ่งหรือจะเรียกว่าเป็นของหวานก็ได้ ซึ่งมีหลายรูปแบบ

  หลายชนิด มีใส่ไข่ ไม่ใส่ไข่  บัวลอยก็สามารถทำให้มีหลายๆสีได้